ฉลามวาฬที่เกาะเต่า
เรียนรู้เกี่ยวกับฉลามวาฬบนเกาะเต่า
ฉลามวาฬเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฉลามและมักเข้าใจผิดว่าเป็นวาฬ เป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรและเป็นฉลามที่นักดำน้ำลึกอยากเจอมากที่สุด
จะเจอฉลามวาฬบนเกาะเต่าได้ที่ไหน
เกาะเต่ามีชื่อเสียงมากในเรื่องการพบฉลามวาฬถึงแม้จะเจอบ่อยในบางเดือนแต่ฉลามวาฬก็ยังโผล่มาปรากฏตัวให้เห็นตลอดทั้งปี
กองหินชุมพร กองหินตุ้งกูและหินใบเป็นแหล่งดำน้ำสำหรับชมปลามหัศจรรย์ชนิดนี้
ไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการเห็นฉลามวาฬตามแหล่งดำน้ำตื้นในท้องถิ่นอย่างซากเรือหลวง สัตกูดและกองหินทวิน
วิธีระบุฉลามวาฬ
ฉลามวาฬมีขนาดตัวใหญ่มากจนทำให้สัตว์ทะเลอื่นๆ ที่เราเห็นบนเกาะเต่าตัวเล็กไปเลยพวกมันมีหัวที่ใหญ่มากเมื่อเทียบกับขนาดลำตัวและปากที่อยู่ด้านหน้าแทนที่จะอยู่ด้านล่าง
ฉลามวาฬมีหนามสั้นๆ คล้ายหนวดแมวยื่นออกมาจากรูจมูกทำหน้าที่เป็นอวัยวะรับความรู้สึกคล้ายกับปลาดุก ดวงตาของพวกมันแข็งมีเกล็ดคล้ายฟัน
ฉลามวาฬเป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทร
ใต้ท้องของฉลามวาฬเป็นสีขาวส่วนที่เหลือของลำตัวมีส่วนผสมของสีเทาและสีน้ำเงินซึ่งประกอบด้วยจุดและแถบสีขาวที่อาจมีความหนาถึง 10 ซม.
ฉลามวาฬเป็นหนึ่งในปลาฉลามเพียงสามชนิดที่กรองกิน โดยพวกมันจะอ้าปากซึ่งมีความกว้างมากกว่า 1 เมตรและฮุบน้ำเข้าทางปากแล้วดันน้ำออกผ่านช่องเหงือกของมัน
ฉลามวาฬสามารถกลืนน้ำได้มากกว่า 6,000 ลิตรต่อชั่วโมงและแม้ว่าพวกมันจะมีฟันซี่เล็กๆ มากกว่า 3,000 ซี่แต่ก็ไม่สามารถกัดหรือเคี้ยวอาหารได้
ลักษณะและพฤติกรรมของฉลามวาฬ
ฉลามวาฬใช้ทั้งตัวเคลื่อนที่ไปรอบๆ มหาสมุทรแทนที่จะใช้เพียงครีบหางเท่านั้น
ฉลามวาฬเป็นยักษ์ที่อ่อนโยนและมีความสง่างาม การเคลื่อนไหวของพวกมันดูเหมือนล่อยลอยมากกว่าว่ายน้ำเร็วๆ
ไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับนิสัยการผสมพันธุ์ของฉลามวาฬ พวกมันมีคล้ายรังไข่ซึ่งหมายความว่าลูกของพวกมันฟักจากไข่ที่เก็บไว้ในร่างกายของเพศเมียและเกิดหลังจากนั้น
ยักษ์ใหญ่ใจดีของมหาสมุทร
ฉลามวาฬตัวเต็มวัยมีความยาวถึง 12 เมตรและมีน้ำหนักมากกว่าเจ็ดตัน ดังนั้นพวกมันจึงมีสัตว์นักล่าตามธรรมชาติน้อยมาก
ลูกปลาวัยอ่อนมีความเสี่ยงจากการถูกคุกคาม การศึกษาบางชิ้นประเมินว่ามีลูกวาฬน้อยกว่า 10% ที่ได้เข้าสู่วัยโตเต็มตัว
พวกมันจึงมีอัตราการเติบโตที่รวดเร็วมากในช่วงแรกของชีวิตและสามารถเพิ่มน้ำหนักได้มากกว่า 100 กิโลกรัม ในช่วงสองสามปีแรกของชีวิต
ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเกี่ยวกับฉลามวาฬ
การระบุตัวของฉลามวาฬนั้น พิจารณาจากด้านข้างลำตัว ตั้งแต่ช่องเหงือกช่องที่ 5 จนถึงสิ้นสุดครีบอก โดยแต่ละตัวจะมีจุดที่แตกต่างกันออกไปเป็นอัตลักษณ์ประจำตัว
เครื่องหมายที่เป็นอัตลักษณ์เหล่านี้ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถติดตามพวกมันได้และทำให้เรามีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบการอพยพและพฤติกรรมอื่นๆ
ช่วงต้นปี 2543 นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากนาซ่าได้ทำงานร่วมกับนักอนุรักษ์คนอื่นๆ เพื่อสร้างอัลกอริทึมที่ช่วยกรองบันทึกภาพถ่ายของฉลามวาฬเพื่อระบุประวัติการอพยพของพวกมัน
รูปแบบที่ไม่เหมือนใครช่วยระบุฉลามวาฬ
เชื่อกันว่าระบบทำงานคล้ายกับการระบุจุดสีขาวที่ด้านข้างของฉลามวาฬ
การศึกษาพบว่าฉลามวาฬจำนวนมากสามารถกระโดดลงไปที่ระดับความลึกระหว่าง 2,000-3,000 ฟุตและจากบันทึกจะเห็นว่ามีการใช้เวลามากกว่า 12 ชั่วโมงที่ความลึก 3,200 ฟุต
ในปี 2552 กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในฟิลิปปินส์ได้ค้นพบลูกฉลามวาฬที่มีความยาวเพียง 38 ซม. ซึ่งเชื่อว่าเป็นฉลามวาฬที่มีชีวิตขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา